เนื่องจากผู้ใช้บริการโทรศัพท์ด้วยระบบเติมเงินในประเทศไทย มีมากกว่า 40 ล้านเครื่อง ธุรกิจที่เกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือจึงน่าลงทุนเป็นอย่างมาก และนับวันผู้ใช้ยิ่งมากขึ้นทำให้ธุรกิจตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือน่าสนใจเป็นอย่างมาก
3 TOP เป็นอีกหนึ่งผู้นำตู้บริการเติมเงินมือถือที่มีประสบการณ์มายาวนาน ปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 1,200 จุดทั่วประเทศ 3 TOP เริ่มเข้ามาบุกตลาดตู้เติมเงิน เมื่อประมาณปี 2550 ซึ่งเป็นเจ้าแรกๆในขณะนั้น โดยตู้รุ่นแรกของ 3TOP ยังไม่มีระบบคืนเงิน ต่อมาไม่นานรุ่น 2 ก็พัฒนาขึ้นให้สามารถคืนเหรียญได้ และตู้เติมเงินรุ่นล่าสุดคือ รุ่น 3 นี้ ก็พัฒนาให้สามารถรับได้ทั้งเหรียญและธนบัตร โดยราคาของตู้เติมเงินทั้ง 3 รุ่นนั้น เริ่มตั้งแต่ 19,900-39,900 บาท หลังจากแบรนด์ 3TOP ติดตลาดในฐานะเป็นตู้เติมเงินหยอดเหรียญแล้ว ก็ยังพัฒนาเครื่องเติมเงินหยดเหรียญพร้อมรับชำระค่าบริการขึ้นมาภายใต้ชื่อ 3TOP Online และ 3TOP M Station ซึ่งในส่วนของเครื่องเติมเงินจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ
ส่วนที่ 1 เรียกว่า เครื่อง 3TOP Online ให้บริการเฉพาะการเติมเงินมือถือ โดยสามารถเติมได้ 3 ระบบ ได้แก่ วันทูคอล แฮปปี้ และ ทรูมูฟ ราคาเครื่องละ 19,000 บาท
ส่วนที่ 2 เรียกว่าเครื่อง 3TOP M Station ให้บริการทั้งการเติมเงินและรับชำระค่าบริการต่างๆ โดยใช้ระบบของ Mpay ซึ่งสามารถรับชำระได้ถึง 71 รายการ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าสินค้า ฯลฯ ราคาเครื่องละ 39,900 บาท
ความแตกต่างระหว่างตู้เติมเงินกับเครื่องเติมเงิน???
ตู้เติมเงินนั้น ผู้มาใช้บริการจะต้องทำรายการเองทุกขั้นตอน แต่ถ้าเป็นเครื่องเติมเงิน ผู้ประกอบการจะเป็นคนทำรายการให้ เพราะฉะนั้นมันก็จะเหมาะกับธุรกิจต่างกัน เช่น ตู้เติมเงิน อาจจะนำไปตั้งไว้ตามอพาร์ทเมนท์ สถาบันการศึกษา หรือที่ใดก็ได้ที่เป็นแหล่งชุมชน และเป็นที่ปลอดภัย แต่ถ้าเป็นเครื่องเติมเงิน ผู้ประกอบการอาจจะนำไปทำเสริมกับธุรกิจที่มีอยู่แล้ว เช่น ร้านกาแฟ ร้านมินิมาร์ท เป็นต้น
ความคุ้มค่าในการลงทุน-ระยะเวลาคืนทุน 2-5 เดือน-กรณีเป็นการเติมเงิน ไม่ว่าจะเติมเงินจากตู้และเติมเงินจากเครื่อง ผู้ประกอบการจะมีรายได้จากค่าบริการเฉลี่ยครั้งละ 3 บาท นอกจากนั้นยังมีรายได้จากโอเปอร์เรเตอร์ คือ วันทูคอล แฮปปี้ 3.5 % และทรูมูฟ 5.5 %
ความคุ้มค่าในการลงทุน-ระยะเวลาคืนทุน 2-5 เดือน-กรณีเป็นการเติมเงิน ไม่ว่าจะเติมเงินจากตู้และเติมเงินจากเครื่อง ผู้ประกอบการจะมีรายได้จากค่าบริการเฉลี่ยครั้งละ 3 บาท นอกจากนั้นยังมีรายได้จากโอเปอร์เรเตอร์ คือ วันทูคอล แฮปปี้ 3.5 % และทรูมูฟ 5.5 %
ปัจจัยในการคืนทุน
1. ทำเล
2. อัตราการเติมเงินในแต่ละครั้ง
กรณีที่เป็นเครื่องเติมเงินและรับชำระค่าบริการนั้น หากเป็นการเติมเงินค่าบริการก็จะได้เท่ากับตู้คือครั้งละ 3 บาท แต่หากเป็นการรับชำระ ค่าบริการผู้ประกอบการ จะได้ผลตอบแทนบิลละ 4 บาท (ค่ามาตรฐาน) แต่ส่วนใหญ่แล้วผู้ประกอบการจะบวกเพิ่มเป็น 10-15 บาทต่อบิล
ทิศทางของธุรกิจตู้เติมเงินมือถือ??ตราบใดที่คนยังต้องเติมเงิน และมือถือก็กลายเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวันไปแล้ว ธุรกิจนี้ก็ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก
กรณีที่เป็นเครื่องเติมเงินและรับชำระค่าบริการนั้น หากเป็นการเติมเงินค่าบริการก็จะได้เท่ากับตู้คือครั้งละ 3 บาท แต่หากเป็นการรับชำระ ค่าบริการผู้ประกอบการ จะได้ผลตอบแทนบิลละ 4 บาท (ค่ามาตรฐาน) แต่ส่วนใหญ่แล้วผู้ประกอบการจะบวกเพิ่มเป็น 10-15 บาทต่อบิล
ทิศทางของธุรกิจตู้เติมเงินมือถือ??ตราบใดที่คนยังต้องเติมเงิน และมือถือก็กลายเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวันไปแล้ว ธุรกิจนี้ก็ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท ลีดเดอร์ ควอลิตี้ โปรดักส์ จำกัด 1575/1 อาคารชัยสงวน ห้อง 3/9 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0-2652-8547มือถือ 08-1881-3311www.3topthailand.com