เชิญลงโฆษณาฟรี

สำหรับท่านที่ดำเนินธุรกิจอยู่แล้วขอเชิญลงโฆษณาฟรี
รายละเอียดดังนี้
ลงโฆษณาฟรี

10/16/2010

เปิดร้านเสริมสวย

ร้านเสริมสวย

สำหรับใครที่กำลังมองหาธุรกิจส่วนตัวอยู่ การเปิดร้านเสริมสวย ต้องหาข้อมูลก่อนการตัดสินใจ หรือใครที่เปิดร้านอยู่เเล้วอยากได้ไอเดียแต่งร้านให้มีรายได้เพิ่มอีกทางหนึ่ง
ถ้าผู้ประกอบการที่มีเงินทุนสักก้อนพร้อมเดินตามความฝันในการเปิดร้านเสริมสวยในห้างสรรพสินค้า ต้องหาเคล็ดลับการเปิดร้านเสริมสวยอย่างมืออาชีพว่าก่อนอื่นเราต้องดูบุคลิกภาพของเราก่อนว่า มีบุคคลิกของการเป็นเจ้าของร้านแล้วหรือยัง มีเทคนิคหรือหัวใจของผู้รักงานด้านบริการมากน้อยเพียงใด เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น ทำให้โลกเกิด
การเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นชาวเอเชีย ผู้นำเทรนด์ทรงผมที่แปลกใหม่แหวกแนว แต่ก็สร้างสีสันให้กับวงกาแฟชั่นเมืองไทยได้อย่างดี อีกทั้งสามารถหาเงินได้อย่างง่ายๆ

การเปิดร้านเสริมสวยจะมีอยู่ทั้งหมด 3 รปแบบ คือ

รูปแบบที่ 1 ร้านขนาดเล็ก คือ ร้านตึกแถวขนาด คูหา มีชุดเก้าอี้ทำผมไม่เกิน 4 ชุด

รูปแบบที่ 2 ร้านขนาดกลาง คือ ร้านตึกแถวขนาด 2 คูหา หรือร้านทั่วไปนอกห้างสรรพสินค้า มี
เก้าอี้ทำผมตั้งแต่ 4 - 10 ชุด


บุคลากรในร้านเสริมสวย
1. ช่างตัดผม หน้าที่ของช่างตัดผมในแต่ละร้านก็มีวิธีการต้อนรับลูกค้าที่แตกต่างกัน ช่วงเวลาที
ยังไม่มีผู้เข้ามาใช้บริการกับช่างตัดผมคนใด ช่างตัดผมคนนั้นก็จะเป็นเีรียกลูกค้าเข้าร้าน โดยการเสริมโปรโมชั่นต่างๆ เช่น การตัดผม การดัดผม การย้อมผม การแฮร์สปา การยืดผม เป็นต้นซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ช่างตัดผมส่วนใหญ่ของทุกร้านเป็นผู้แนะนำ เพื่อกระตุ้นรายได้ของตนเอง แต่ถ้าช่างตัดผมไม่ว่างทั้งหมดก็จะมีพนักงานต้อนรับซัพพอร์ตหน้าร้านเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามใน 1 วัน ช่างตัดผม 1 คนจะต้องให้บิรการลูกค้าโดยประมาณการจำนวนลูกค้าที่คาดว่าจะเข้ามาใช้บริการต่อวันดังนี้
ถ้าช่างตัดผม 1 คน สามารถให้บริการลูกค้าได้วันละ 10 คน
ถ้าช่างตัดผม 7 คน สามารถให้บริการลูกค้าได้วันละ 70 คน
ถ้าเปิดร้าน 1 ปี (300 วัน) สามารถให้บริการลูกค้าได้สูงสุด 30o x 70 = 21,000 คน
ประมาณการ ถ้ามีลูกค้ามาใช้บริการร้อยละ 90 ก็จะมีผู้เข้ามาใช้บริการประมาณ 18,900 คน

2. พนักงานทั่วไป พนักงานทุกคนต้องต้อนรับลูกค้าด้วยความสุภาพ ไม่ควรให้ลูกค้าคอยนาน
เกิน 30 วินาที มีความรู้พื้นฐานพอสมควร บุคลิกภาพต้องสะอาดและมีหน้าเชื่อถือ ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี ขณะปฏิบัติงานไม่แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น การเคี้ยวหมากฝรั่ง การเอามือไขว้หลัง การหวีใช้ในร้านหวีศีรษะตัวเอง เป็นต้น ดังนั้นเจ้าของร้านควรมีหลักการในการคัดเลือกให้ได้ พนักงานที่ดี ต้องนิสัยดี ฝีมือดี รักอาชีพเสริมสวยและที่สำคัญต้องขยัน

อัตราค่าจ้างพนักงานร้านเสริมสวย
ส่วนอัตราค่าจ้างของอาชีพช่างทำผมและพนักงานด้านทำ อาชีพช่างทำผม
และพนักงานด้านทำผมมีอัตราค่าจ้างที่สูงพอสมควร คือ อัตราค่าจ้างช่างประจำอยู่ที่ประมาณ
10,000 – 12,000 บาท ส่วนค่าคอมมิชชั่นประมาณ 10 0/0 การใช้บริการ 1 ราย และอัตราคาจ้างพนัก ( ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 7,000 – 8,000 บาท อาจจะมีคอมมิชชั่นเป็นตัวกระตุ้นด้วย โดยอาจตั้งไว้ทีงบประมาณ 1-3 %
สำหรับร้านทำผมในห้างสรรพสินค้าบอกได้เลยว่าแทบจะไม่มีวันหยุดเลย เพราะว่าช่วงวันหยุด
ของลูกค้า คือ วันทำงานของเรา ดังนั้น วันหยุดของพนักงานใน 1 สัปดาห์จะสลับกันหยุดคนละ 1 วัน
การเปิดร้านเสริมสวยในห้างสรรพจำเป็นต้องอาศัยความเป็นมืออาชีพในการบริหารงานอย่างมาก รวมทั้งการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบระเบียบตามที่กำหนดไว้ เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการประทับใจ และไม่เป็นผลทำให้พนักงานต้องลาออกบ่อยๆ การแบ่งสายหลักจึงแบ่งได้ ดังนี้

1.ด้านการบริการ ผู้ประกอบการจะต้องวางระบบให้แน่นอนตั้งแต่การเปิดร้านในวันแรก
การเปิดร้านเสริมสวยจะใช้เงินลงทุนเริ่มต้นประมาณ 1 ล้านบาท จัดระบบบัญชี
อย่างละเอียด ใช้ลายลักษณ์อักษรกำกับทุกครั้ง ทำบัญชีรายรับ - รายจ่ายทุกวัน การจัดซื้อและสต๊อก
สินค้า พอประมาณตามจานวนเฉลี่ยของผูเข้ามาใช้บริการต่อวัน ด้านทรัพยากรบุคคลต้องแบ่งหน้าที่การทำงานอย่างชัดเจน รวมถึงการเข้างานอย่างตรงเวลา เช่น คนดูแลความสะอาดของร้าน
พนักงานต้อนรับลูกค้า และบริหารงานทั่วไปให้ครบทุกด้าน
ร้านเสริมสวย
ร้านเสิรมสวยจะได้รับความนิยมมากในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งรายได้จะขึ้นจากเดิมตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมไปจนถึงเดือนมกราคม ส่วนวันเสาร์อาทิตย์จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากกว่าวันธรรมดาหนึ่งเท่าตัว

สำหรับคนไทยที่เข้ามาใช้บริการที่ร้านส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง 80 % ผู้ชาย 20 %ที่ร้านจึงมี
นิตยสารแฟชั่นมากมายเอาไว้ต้อนรับลูกค้าที่หลากหลายกลุ่ม เพราะเราจะไม่ทราบว่าลูกค้าที่เข้ามา
บิรการสไตล์ไหน เราก็จะมีนิตยสารทรงผมทั้งไทย ญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่ง ทั่วไปๆ ทั้งแบบผมยาวและผมสั้นเอาไว้ แต่ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเข้ามาใช้บิรการการตัดผม - ทำผม ตามกระแสมากกว่า

การบริหารจัดการร้านเสริมสวย
1. คือ ฝีมือ ร้านเสิรมสวย ที่ประสบความสำเร็จทั้งหมดส่วนใหญ่คือ ร้านเสริมสวย ที่สามารถช่วยให้ลูกค้ามีบุคลิกที่ดีขึ้น ทำงานออกมาตรงตามที่งกค้าต้องการฝีมือช่างจึงมีส่วนสำคัญมาก ในกรณีนี้เจ้าของร้านจะเป็นตัวดึงดูดลูกค้าได้ดีทีสุด เพราะลูกค้าจะเชื่อมั่นในตัวช่างมากกว่าอื่นใด ช่างที่มีเมื่อจะมีจุดเด่นอยู่ 2 ประการคือ ทำงานตามที่ลูกค้าต้องการได้ดี นเละอีกประการหนึ่งคือ สามารถ
ชี้นำอธิบาย และให้เหตุผลที่ดีกับลูกค้าได้ว่า ทำไมจึงต้องทำแบบนี้หืหทาไมจึงต้องเป็นแบบนี้

2. คือ การให้บิรการ ร้านเสิรมสวย ทีมีประสบการณ์จะเข้าใจถึงหลักการบริหารที่ดีแก่ลูกค้าได้ดี
เพราะเมื่อใดที่ร้านเสิรมสวยมีงกค้าประจำ การเอาใจใฟต่อลูกค้า ความซื่อสัตย์ นนละความน่าเชื่อถือของร้าน จะเป็นตัวการันตีว่าลูกค้าจะเพิ่มขึ้น ร้านให้บริการดี มีโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ช่างสามารถตอบปัญหา หรือแนะนำสิ่งที่ดีๆ รวมถึงดูแลประโยชน์ให้ลูกค้าได้ดี ไม่หวังฟ้นเงินจากลูกค้ามากเกินไป และไม่ทำให้ลูกค้าผิดหวัง เมื่อนั้น ร้านเสิรมสวย ของคุณก็จะประสบความสำเร็จแน่นอน
3. คือ หน้าร้านที่ดึงดูดลูกค้าใหม่ เมื่อมีเมื่อบวกกับบิรการที่ดีแล้ว ทำอย่างไรจะให้ร้านเสิรมสวยมีลูกค้าหน้าใหม่เดินเข้ามาในร้าน เพื่อญัรู้ถึงฝีมือและบิรการได้ หัวใจของการดึงดูลูกค้า
มีมากมาย ยกตัวอย่างได้ 2 - 3 ประการ คือ การตกแต่งหน้าร้านที่สวยงามตรงกับความต้องการของ
กลุ่มลูกค้า เช่น มีร้านเสิรมสวยอยู่ในย่านชานเมือง ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าระดับ C และ B นั่น
คือระดับกลางลงล่าง เป็นกลุ่มที่มีรายได้ปานกลาง ชอบเน้นที่บริการเป็นกันเอง และราคา สมเหตุสมผล แต่มีการตกแต่งร้านจนสวยโดดเด่นราคาแพงมากราวกับร้านที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพ สินค้าชื่อดังอันดับหนึ่งของเมืองไทย ลูกค้าอาจจะไม่กล้าเข้าร้านเลยก็ได้ เพราะคิดว่าร้านนี้ราคาแพง

*ข้อมูลเงินลงทุนในธุรกิจร้านเสริมสวย
เงินลงทุนเริ่มต้น 2,000,000-5,000,000 บาท
ตกแต่งร้าน 1,500,000 บาท
ค่าเช่าสถานที่ 50,000 บาท
การบริการ
สระไดร์150-200 บาท
สระซอย 350-500 บาท
ยืดผม 1,000-3,000 บาท
ทำสีผม 1,000-3,000 บาท
อบไอน้ำ 300-800 บาท

แรงงาน 10-15 คน
กำไร 70 %
-ส่วนรายได้จะอยู่ที่ประมาณหลักแสนปลายๆ /เดือน

10/09/2010

อาชีพขายข้าวแกง

ข้าวแกงเป็นอาหารจานเด็ดของคนไทยมานาน และยังเป็นอาหารจานด่วนที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
เพียงพอ ต่อความต้องการของร่างกาย ที่สำคัญยังซื้อง่าย-ขายคล่อง มาทุกยุคทุกสมัย
ไม่ว่าจะยุคข้าวยากหมากแพง...น้ำมันพุ่งสักแค่ไหน คนไทยก็ต้องกินข้างแกง อาชีพขายข้าวแกง จึงเป็น อาชีพเสริมที่ดี การเปิดร้านขายข้าวแกง จึงเป็นอาชีพที่ไม่มีวันตาย และยังคงไปได้เรื่อยๆข้าวแกงมี
ผู้นิยมรับประทานกันเสมอมา ถ้าหากแกงอร่อยถูกปาก-ถูกใจคนรับประทาน หากใส่ใจปรับปรุงรสชาติและความสะอาดอย่างต่อเนื่องรับรองได้เลยว่า ไม่มีวันที่เงินจะขาดมืออย่างแน่นอน

ขายข้าวแกง

หลักการเลือกซื้อวัตถุุดิบมาปรุงข้างแกง
เนื้อหมู ควรเลือกหมูที่สด สะอาด ต้องมีสีชมพู เนี้ออิ่มเป็นมัน หนังเกลี้ยง
เนื้อวัว ต้องมีสีแดงสด เนื้อละเอียดแน่น
เนื้อไก่ ต้องมีหนังสดบาง สีไม่ซีด
กุ้ง ต้องมีเนื้อแน่น ตัวเขียวปนน้ำเงินสดใส คอไม่หัก
เนื้อปลา ต้องดุที่เหงือกแดง ตานูนสดใส เนื้อแข็งแน่น
หมึก ต้องเลือกที่เยื่อหุ้มตามตัวยังไม่ลอก
ผักสด ต้องเลือกที่ใบติดแน่น สีเขียวสด ไม่ช้ำ เลือกใบที่มีตำหนิจากแมลงบ้างก็ดีเพราะปลอดภัยจากสารพิษ
กะทิ ควรเลือกใช้กะทิ ที่คั้นสดใหม่ ซื้อจากร้านที่ใช้มะพร้าวใหม่สดทุกวัน

แหล่งจำหน่ายวัตถุดิบในการทำข้าวแกง
ตลาดบางกะปิ
ตลาดคลองเตย
ปากคลองตลาด
ตลาดบางกอก-น้อย
ตลาดพรานนก
ตลาดที่มุมเมือง
ตลาดยิ่งเจริญ หรือตลาดสดทั่วไปที่อยู่ใกล้ บ้าน


การลงทุนขายข้าวแกง : ประมาณ 12,000 บาท (รวมรถเข็น และเตาแก๊ส ) + เงินทุนหมุนเวียน ประมาณ 800 บาท/วัน
การเลือกเวลาขาย
เน้นขายเฉพาะช่วงเย็นเพราะคนนิยมซื้อกลับข้างถุงไปกินที่บ้าน
ตั้ง ราคาขายถุงละ 15-20 บาท
กำไร 50 0/0 ของยอดขาย
ถ้าขายแบบรถเข็น คารมีอาหาร5-8 อย่าง ได้แก่ แกงอะทิ เเกงส้ม ผัดเผ็ด ผัดผัก ต้มจืด ต้มยำ น้ำพรีก-ปลาทูผักจิ้ม ไข่พะโล้ กุนเชียง ปลาสลิดทอด หมูทอด ไข่ดาว ฯลฯ

ทำเลในการขาย
สามารถขายได้ดีในย่านชุมชน และแหล่งที่คนพลุกพล่าน เช่น
โรงเรียน ป้ายรถประจำทาง ตลาด ปากซอย หน่วยงานใด หรือมีโรงงาน เป็นต้น

เทคนิคการขาย
1.การขายแต่ละวัน อาจที่มีของเหลีอ ดังนั้น เรื่องการเก็บรักษาของเหลือที่สามารถเก็บได้ไม่ทำให้เสียรสชาติ จึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งต้องรู้วิธีการเก็บอาหารแต่ละอย่างได้ถูกต้อง การจะคงคุณภาพของที่เหลือให้ดีได้นั้น ที่นิยมกันมากก็คือ เก็บใส่ในตู้เย็น
2. สำหรับวันแรกที่เปิดกิจการ ควรทดลองดูก่อน อย่าทำอาหารมากเกินไป ควรจะมีแกงต่าง ๆ ในปริมาณพอสมควร เพื่อทดลองตลาดดูก่อน
3. อาหารที่ควรมีประจำร้าน เช่น น้ำพริก-ผักสด ผัดผัก แกงจืด ผัดคะน้าหมูกรอบ ผัดหน่อไม้ใส่ไข่ ผัดถั่วงอกกับเต้าหู้ ผัดมะเขือยาวหมูสับ. แกงจืดผักกาดขาวกับหมูสับ แกงจืดผักตำลึง หรือต้มจับฉ่าย ไข่พะโล้ ที่ใส่หมูและเข้าหู้ และควรมีเครื่องเคียงอื่นๆ อีกด้วย เช่น กุนเชียง ปลาสลิดทอด เนื้อเค็ม หมูทอด ไข่ดาว ผักสด ผักลวก และน้ำพริกต่างๆ เป็นต้น

คุณสมบัติของพ่อค้าแม่ค้าขายข้าวแกง
1. มีใจรัก ชอบทำอาหาร ทำกับข้าว
2. มีความขยันหมั่นเพียร อดทน เพราะงานทำกับข้าวจะเป็นงานที่เหนื่อยมาก หากต้องทำงานประจำด้วยแล้วต้องมีคนช่วยสัก 1-2 คน
3. มีอัธยาศัยดี หน้าตายิ้มแย้ม พูดจาน่าฟังกับลูกค้าเสมอ ตั้งใจบริการ
4. มีความคิดสร้างสรรค์ ปรับเปลี่ยนเมนูไม่ให้จำเจ หมั่นพัฒนารสชาติอย่างต่อเนื่อง ฝึกสังเกตลูกค้าว่าชอบแบบไหน กินยังไง

10/02/2010

อาชีพ ขายสเต็กจานด่วน

สเต็ก
อาหารจานด่วนพร้อมเสิร์ฟ เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากมาย ในเมืองไทยจะเห็นได้ว่า ร้านสเต็กกำลังเกิดขึ้นอย่างมาก และได้รับการตอบรับจากคนไทยที่นิยมความสะดวกสบายรวดเร็ว
อาชีพที่น่าสนใจวันนี้ การเปิดร้านสเต็ก จึงถือเป็นอีกอาชีพที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลย เพราะด้วยราคาที่ไม่แพงสามารถแข่งขันกับร้านสเต็กหรูๆได้อย่างสบาย กลุ่มลูกค้าก็มีอย่างมากมาย
เปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้าถึง การบริโภคได้ง่ายขึ้น

ความน่าสนใจของการเปิดร้านสเต็กอยุ่ที่ไหน ?
อยู่ตรงที่เป็นธุรกิจที่เริ่มต้นได้ง่ายๆไม่ยุ่งยากมาก ไม่ต้องอาศัยทักษะสูง ตรวจสอบการขายได้ง่ายไม่เหมือนร้านอาหารประเภทอื่นๆ และสามารถนับจำนวนชิ้นเนื้อได้ทันที นอกจากนี้กำไรยังมากกว่า 50% อีกด้วย อีกอย่างทุกวันนี้มีโมเดลธุรกิจ
ให้เลือกทำได้อย่างหลากหลายไม่จำเป็นต้องไปเริ่มเรียนรู้เองทั้งหมด อาชีพที่น่าสนใจ เกี่ยวกับร้านสเต็กนี้ จึงไม่น่ามองข้าม สำหรับผู้ที่สนใจอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง
ปัจจุบันนี้มีตัวแทนขายส่งวัตถุดิบดิบทำสเต็ก ที่คัดสรร ของดีมีคุณภาพ และวัตถุดิบดิบสำเร็จรูปง่ายต่อการจัดการ มีทั้ง เนื้อหมู เนื้อวัวขุน ปลาแซลมอน ที่หั่นสไลด์เป็นชิ้นมาให้เรียบร้อยแล้ว น้ำหนัก / ชิ้นประมาณ 100-130 กรัม ที่ปริมาณพอดีจาน
อีกทั้งยังมีน้ำราดสำเร็จรูปมาให้พร้อมไม่ต้องปรุงเอง

ข้อดีที่ให้ผู้ประกอบการเปิดร้านสเต็กคือ
สามารถจัดการเปิดตกแต่งร้านได้ตามที่ต้องการ และจัดสรรค์เมนูตามแบบฉบับของตัวเองได้
โดยที่ต้นทุนไม่ได้มากมายนัก เมื่อเทียบกับการเปิดร้านสเต็กเมื่อก่อน ปัจจุบันนี้มีแฟรนไชส์ที่ให้บริการด้านวัตถุดิบสเต็ก เพียงแค่เราสั่งซื้อ วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ในราคาที่กำหนด และซื้อในขั้นต่ำเท่านั้นเราก็สามารถเปิดร้านดำเนินกิจการได้เลยทันที
รูปแบบแฟรนไชส์ที่ช่วยให้เราสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว การเปิดน้ายสเต็ก จึงเป็นอาชีพที่น่าสนใจมากๆ อีกอาชีพหนึ่ง
ระบบต่างๆที่ทางเจ้าของแฟรนไชส์เซ็ตมาเรียบร้อยทั้ง การตกแต่งร้าน วัตถุดิบ อุปกรณ์ เพื่อให้ได้คุณภาพและมาตรฐานเดียวกัน ผู้ประกอบการเพียงเข้าไปอบรมจากบริษัทแม่เท่านั้น ทั้งการบริหารจัดการร้าน การปิ้ง ย่าง ให้สเต็กได้มาตรฐาน
ก็สามารถดำเนินธุรกิจได้เลย การลงทุนเปิดร้านสเต็กขนาดเล็กน่าจะปรมาณการคร่าวๆอยู่ที่ 40,000-50,000 บาท ไม่นับค่าตกแต่งร้าน ยิ่งถ้าเราเป้นเจ้าของทำเลยิ่งได้เปรียบ

ทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
การเลือกทำเลที่ดี เป็นเรื่องสำคัญ การจะประกอบธุรกิจไม่ว่าใดๆ ทำเลถือว่ามีส่วนสำคัญมากๆลำดับต้นๆ ก่อนการเปิดร้านต้องเลือก วิเคราะห์ให้ดี
แหล่งที่มีคนพลุ่กพล่าน ใกล้ตลาด แหล่งสถานศึกษา แหล่งบันเทิงต่างๆ ฯลฯ